ก่อนคิดว่าชีวิตพบวิกฤต ให้คิดก่อนว่า…วิกฤตนี้ให้บทเรียนอะไร?

ก่อนคิดว่าชีวิตพบวิกฤต

ให้คิดก่อนว่า…วิกฤตนี้ให้บทเรียนอะไร?

เคยมีเงิน แต่ไม่เคยเห็นคุณค่าของเงิน เงินจึงจากลา เพียงอยากบอกให้รู้ว่า เงินคือความรัก หากรักเงิน เงินจะเข้ามามหาศาล หากมาอยู่ด้วยกันแล้วไม่รัก เงินจะจากไป การแสดงออกให้รู้ว่า “รักเงิน” คือการเห็นคุณค่าของเงิน ไม่ใช่เอามานั่งกอด นั่งหอม นั่งประกาศบอกฉันรักเงิน ฉันรักเงิน ฉันอยากมีเงิน การเห็นคุณค่าของเงิน คือ การที่เราจะนำเงินที่เรารักและเห็นคุณค่าอย่างมากนั้น ไปแลกกับอะไรสักอย่าง เราจะคิดอย่างดี และสิ่งที่เราจะนำเงินไปแลกมานั้น ต้องมีคุณค่ามากจริงๆ เรารักเราชอบสิ่งนั้นจริงๆ สิ่งๆนั้นต้องมีคุณค่ามากเกินกว่าค่าของเงินที่เรารักจะแลกออกไป  ไม่ใช่ซื้อมั่วๆ ใช้ซั่วๆ ใช้เงินราวกับกระดาษอันไร้ค่า

เคยมีคนรัก แต่ไม่เคยเห็นคุณค่าของความรัก ความรักดีดีก็หนีหาย เปลี่ยนคู่กี่ครั้ง เปลี่ยนใจกี่หนก็ผิดหวัง พลาดพลั้งทุกครั้งไป ความรักก็เหมือนกับเงิน หากไม่เห็นคุณค่ากันและกันเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็พร้อมจากไปทันที  ความรักไม่ใช่แค่ดึงมากอดมาหอม พร่ำคำรักเช้า สาย บ่าย ค่ำ ความรักคือความรัก คือการเอาใจใส่ เห็นคุณค่า เมตตา และให้อภัย เห็นคุณค่ากันและกันทุกลมหายใจ ทุกสถานการณ์ หากเรารู้จักรักอย่างแท้จริง เราจะพบรักแท้และความดีงามมากมายในโลกใบนี้

พบความรักง่ายๆ ในตัวเอง ด้วยการเริ่มรักตัวเอง ดูแลตัวเองอย่างดี ใส่ความคิดดีดีบรรจุลงหัวใจและสมอง พูดสิ่งดีดีให้กาย ใจ จิต ซึมซับรับแต่ถ้อยคำที่ดี กระทำแต่สิ่งดีงามต่อชีวิตและจิตวิญญาน รักตนเองได้เมื่อไหร่ จะพบความรักแท้อันยิ่งใหญ่ได้ไม่ยาก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ให้เริ่มที่รักตัวเองเดี๋ยวนี้เลย

ทุกสิ่งในกาลจักรนี้ คือพลังงาน
“ทุกสิ่ง” คือพลังงาน
พลังงานที่เหมือนกันจะผสานเข้าหากัน
ภายในเราเป็นอย่างไร
เราจะได้รับในสิ่งที่เสมอกันอย่างไม่มีข้อยกเว้น
ชีวิตของเราในวันนี้
คือผลลัพธ์จากการทำ พูด คิด ของเราเอง
นี่คือกฎธรรมชาติ
คือกฎแห่งกรรม
หรือกฎของการกระทำ
ทำสิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้นแน่นอน ไม่มียกเว้น 

การบูชาวัตถุมงคลทั้งหลายทั้งปวง และ การจุดเทียนบูชาแห่งพระอาจารย์กฤษฎา คือการน้อมนำเอาสิ่งดีงาม สิ่งอันเป็นมงคลเข้าตัว ดึงเอาพลังงานอันดีงามทั้งปวงมาล้อมไว้ในรัศมีกาย และพลังงานแห่งแรงครูจะไม่สามารถผสานรวมประสิทธิ์สู่กาย จิตได้ หากพลังงานแห่งผู้บูชานั้นไม่ยกระดับคลื่นความถี่ให้เสมอกันกับจิตแห่งแรงครู

เพราะเหตุนี้ ครูบาอาจารย์ท่านจึงให้ร่ายคาถา หมั่นภาวนา ทำสมาธิ ให้จิตเรายกระดับผสานกับคลื่นพลังงานแห่งแรงครู หรือจิตแห่งครูบาอาจารย์ผู้เสก สร้าง ประสิทธิ์วัตถุมงคล การจุดเทียนบูชาสม่ำเสมอคือการเสริมดวง หนุนชะตา สะเดาะเคราะห์ ด้วยการใช้อำนาจแห่งพุทธะ- พระเวทย์มายกพลังจิต เสริมพลังชีวิต ให้แข็งแกร่ง มีกำลัง อีกทั้งธรรมวิธีในการปฏิบัติบูชา ล้วนแยบยลในการถึงพร้อม ด้วยทาน ศีล ภาวนา สมาธิ อันเป็นกำลังสำคัญในการยกกำลังดวงจิต

หากท่านเข้าใจเรื่องพลังงาน ท่านจะแจ่มแจ้งแก่ใจว่า…ทำไม การบูชาของสายผี สายพราย ไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะผี พราย วิญญาณชั้นต่ำนั้นมีคลื่นพลังงานต่ำ และหยาบ พลังงานหยาบของมนุษย์จึงผสานรวมกันได้ง่าย จูนกันง่าย เพียงแค่เปิดสัญญาน แต่อย่าลืมว่า…จักรวาลและดาราจักรคือการแลกเปลี่ยนพลังงาน  การเปลี่ยนพลังงานกับพราย กับผี หรือวิญญาณชั้นต่ำ ท่านก็จะได้สิ่งนั้นเข้ามาในพลังงานของท่านด้วย .. พระเกจิผู้ข่ามขลังในวิชชาอาคมชั้นสูง จึงจะไม่ใช้แรงผี แรงพราย หรือมวลสารใดใดที่เป็นของต่ำ ไม่เป็นมงคลเด็ดขาด เพราะไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน

การบูชาเครื่องราง วัตถุมงคลชั้นสูง จึงจำเป็นต้องร่ายคาถา สร้างกำลังแห่งสมาธิ เพื่อยกระดับคลื่นพลังงานของผู้บูชาเอง ได้ของดีไป ไม่รู้จักใช้ ไม่เห็นคุณค่า ก็จะเหมือนกับตัวอย่างที่ยกไว้ให้ด้านบน เรื่องเงิน กับ ความรัก นั่นเอง

หากท่านเห็นคุณค่า เชื่อมั่นและศรัทธา ท่านจะเชื่อมต่อกันแรงครูอันสูงสุด พลังจิตของท่านจะเกิดแรงอันทวีมีอำนาจมาก นั่นคือประตูแห่งปาฏิหาริย์ที่ท่านค้นหา

เทียนโสฬสมหามงคล เทียนบูชาสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ยกชะตา บูชาโชค

ยันต์เทียนโสฬสมหามงคลลูกนี้ พระอาจารย์กฤษฎาสร้างจากตำราโบราณของล้านนา เรียกสูตรผูกพระยันต์ขึ้นจากยันต์โสฬสมงคลพระยันต์ชั้นสูง อันเป็นที่สุดแห่งพระยันต์อันมีคุณวิเศษอย่างยอดยิ่งครอบจักรวาล 
ปริวรรตผูกพระยันต์เพิ่มเติมตามคัมภีร์ที่ได้รับตกทอดจากครูบาอาจารย์ เพื่อให้เกิดฤทธิ์ ทรงอานุภาพยิ่งขึ้นด้วยพุทธานุภาพแห่งอักขระธรรมล้านนาอันศักดิ์สิทธิ์ ผูกสูตรเขียนกลยันต์ ประสิทธิ์คาถาขึ้นเป็นยันต์เทียนมหาเวทย์ล้านนา บรรจุชื่อ นาม และดวงชะตาเกิด ของเจ้าชะตาเจ้าของเทียนโสฬสมหามงคล เพื่อจุดค้ำดวง หนุนชะตา บรรเทาเคราะห์ สะเดาะกรรม เสริมวาสนาบารมี พลิกร้ายให้กลายเป็นดี เปลี่ยนศัตรูเป็นคู่มิตร หนุนชะตาคู่ชีวิตให้เป็นคู่บุญคู่บารมี

พุทธานุภาพแห่งเทียนมหาเวทย์ล้านนา 
“ยันต์เทียนโสฬสมหามงคล”

จะยกชะตาขึ้นสู่อิทธิอำนาจแห่งพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์และแรงครู  บันดาลผลให้โชคดี มีโชคลาภมหาผล คุ้มครอง แคล้วคลาด มีอำนาจ มีชัยชนะต่อพันธะอุปสรรคปัญหา ทั้งหลาย เกิดเมตตา มหานิยม แก้ดวงตกให้ยกสูง แก้ดวงตกให้ยกสูง หนุนชะตาต่ำให้รุ่งโรจน์ เจ้ากรรมนายเวรศัตรูเมตตา ใจอ่อนให้อโหสิ เปิดประตูสมบัติ
เรียกโชคลาภ เพิ่มพูนโภค ทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ ความสำเร็จ สมปรารถนาได้นานัปประการด้วยมงคล พันช่องพันประการ ครอบจักรวาลแห่งโสฬสสูตรที่ย่อส่วนจักรวาลทั้งหมด ลงบนสี่เหลี่ยมกล อัญเชิญทวยเทพเทวดาทั่วทั้งจักรวาลมาประสิทธิ์ลงพระยันต์

ยันต์โสฬสมหามงคลคือพระยันต์ชั้นสูงพุทธอำนาจมหาวิเศษมีค่าควรเมืองแม้เสาหลักเมืองประเทศ องค์บูรพกษัตริย์ยังต้องอัญเชิญพระยันต์นี้ลงแผ่นศิลา หนุนเสาหลักเมือง หนุนดวงชะตาเมือง เพื่อคุ้มครองบ้าน ค้ำชะตาเมือง
นำความเจริญรุ่งเรืองและมหามงคล ณ เสาหลักเมือง

พระยันต์อัญเชิญคุณพระพุทธคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 16 ปราการ จำลอง 16 ชั้นพรหมโลก ซึ่งถือกันว่าเป็นที่มีสุขอย่างยอดยิ่งมาลงบนตัวยันต์ด้วยสูตรโสฬสมงคล ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ ตรีนิสิงเห  ยันต์พระเจ้า๕พระองค์ ยันต์พุทโธ ยันต์องค์พระ ยันต์ปิโย ยันต์บารมี๓๐ทัศ ยันต์มะอะอุ ยันต์พระพุทธคุณถอยหลัง ไตรสรณะคอมน์ถอยหลัง ยันต์พระเจ้า๕พระองค์ ยันต์นะล้อม ยันต์นะอุด ยันต์องค์พระ ยันต์ไม้เท้า ยันต์มงคลจักรวาลน้อย ยันต์อิสวาสุ ยันต์ธาตุสูตรจตุราวุธ อันประกอบด้วย อาวุธอาฬะวะกะยักษ์ มีบ่วงเป็นอาวุธ อาวุธยะมะราชา มีนัยน์ตาเป็นอาวุธ อาวุธพระอินทร์ มีสายฟ้าเป็นอาวุธ อาวุธท้าวเวสวัณ มีคฑาเป็นวุธ ยันต์แปดทิศ ประทับอักขระ นะ มะ พะ ทะ เรียกสูตรดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุทั้งสี่ครบสูตรตามคัมภีร์มหาโสฬสมงคล ปลุกเสกรวมเลขอักขระยันต์ทั้งหมด ให้เกิดพุทธฤทธิ์มีอานุภาพตามประสงค์

แม้สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ผู้เจนจบในพระยันต์ร้อยแปด ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่า พระยันต์โสฬสมงคลนี้ เป็นมหายันต์อันสุดวิเศษเหนือกว่ายันต์ทั้งปวง พระองค์ได้นำไปประทับในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ และเขียนพระยันต์สอดใส่ไว้ใต้หมอนหนุนศรีษะตลอดเวลา จนกระทั่งมรณะภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2487 ลูกศิษย์จึงได้พบแผ่นยันต์มหาโสฬสมงคล วางไว้ใต้หมอนของท่าน รวมถึงหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงก็ได้อัญเชิญไปดัดแปลงจัดสร้าง เป็นตะกรุดโสฬสอันลือลั่นด้วย

“พระยันต์โสฬสมหามงคล”
พิมพ์บนผืนผ้าดิบ ด้านหลังผ้ายันต์โสฬสมหามงคล ประทับรอยฝ่ามือพระอาจารย์กฤษฎา ขันติโก ผู้ปริวรรตสร้างเทียนโสฬสมหามงคล ประทับรอยฝ่ามือด้วยผงชาดกาสีวิเลปะนะ ในฤกษ์ปลุกเสกเทียนบูชาของเจ้าชะตาเจ้าของเทียนโสฬสมหามงคล จะได้รับพร้อมเทียนบูชา เพื่อนำไปสักการะบูชา สอดใต้หมอนหนุนนอนเป็นมงคลสูงสุดทุกยามหลับ

เทียนฤทธิ์ “โสฬสมหามงคล” ครูบาอาจารย์สร้างไว้ให้จุดบูชาค้ำดวง เสริมชะตา ไม่ให้ตกต่ำ ผู้ใดหมั่นจุดเทียนนี้ไว้เสมอ ดวงชะตาจะยกสูง เกิดฤทธานุภาพแห่งจิต เสริมพุทธฤทธิ์แห่งใจ ด้วยอาราธนาคุณแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และแรงครู  มาประสิทธ์ล้อมดวงหนุนชะตาไว้ เมื่อต้องการสำเร็จในเรื่องใด ความใด ธุระ กิจการใดๆ ก็ให้ตั้งสัจจะอธิษฐาน และจุดบูชาเทียนภาวนาเอาเถิด

อุปเท่ห์แห่งพระยันต์กล่าวว่า..แม้ผู้ใดมิได้พบ ก็ถือว่าบุญน้อยนักเสียชาติเสียภพ ผู้ใดแม้ได้พบ แล้วเกิดศรัทธาหมั่นจุดเทียนบูชา ภาวนาพระคาถา ก็เปรียบดั่ง ได้ดวงแก้วสารพัดนึก บันดาลความสมบูรณ์ สมปรารถนา พรั่งพร้อมทองคำ จินดามณีมหาสมบัติ ชะตาจะยกสูง สิ่งอุบาทว์เสนียดจัญไรจักสูญ ชีวิตไม่รู้จัก ตกต่ำอับจน ลาภ ยศ สรรเสริญ สมบัติทรัพย์สินจะเพิ่มพูนมั่งคั่งอย่างเหลือแสน อำนาจราชศักดิ์ ราศี บารมี จะเหนือศัตรู เกิดเมตตาบารมีต่อเจ้ากรรมนายเวร ทั้งหลาย ทวยเทพ องค์อินทร์ พญายม พญายักษ์ ครุฑ นาค รูปธรรมศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 16 ชั้นฟ้า จะคุ้มครอง ดลบันดาล หนุนดวงค้ำชะตา ด้วยฤทธานุภาพและอิทธิคุณ อันวิเศษแห่งเทียนโสฬสมหามงคล ยอดพระยันต์หนุนดวงหนุนชะตา

พุทธธรรมและคุณค่าแห่งอักษรธรรมล้านนา ที่ปรากฎในยันต์เทียน เป็นเสมือน
เพรชน้ำงามอันมีคุณวิเศษที่ซ่อนอยู่ภายในเล่มเทียนขี้ผึ้งศักดิ์สิทธิ์ อันมีพระยันต์เทียนที่ประสิทธิ์พระเวทย์พุทธาคมแห่งครูบาอาจารย์ห่อหุ้มไว้ รอเวลา..ว่าใคร จำนำไปใช้อย่างถูกต้องด้วยแรงจิตศรัทธาและบังเกิดผลตามสัจจะอธิษฐาน

พุทธานุภาพแห่งพระยันต์ที่อัญเชิญมาบรรจุในมหายันต์ และอุปเท่ห์ของแต่ละคาถานั้น มีพลังมหาศาล มีอานุภาพคุ้มครอง คุ้มกันครอบจักรวาล เมตตามหานิยมในตัว บรรยายพอสังเขปได้ว่า…

ยันต์โสฬส

ยันต์โสฬสเป็นยันต์กลเลข ที่ทุกด้านเมื่อรวมกันจะได้ 34 เท่า ๆ กัน พระยันต์นี้ มีการบันทึกมาแต่โบราณและมีการจารึกลงบนเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราช ยันต์โสฬสนี้ ได้แสดงความหมายของอักขระและตัวเลขสอดคล้องกันเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนา รวบรวมเอาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวพัน กับเทวดา ทั้งหลาย ตัวอักขระจารึกพระธรรมเอาไว้ ตัวเลขต่าง ๆ รวบรวมเอาหลักธรรม เทพยดาทั่วแผ่นฟ้าที่นอบน้อมบูชา กล่าวสรรเสริญคือเป็นมงคลอันสูงสุด เมื่อเราเคารพศรัทธาในยันต์นี้ ซึ่งก็คือพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้า และปฏิบัติตามเราก็จะได้รับความเจริญรุ่งเรือง อยู่เย็นเป็นสุข 
.
.
.
.

ยันต์ตรีนิสิงเห

ยันต์ตรีนิสิงเห เป็นยันต์กลเลข เป็นยันต์โบราณรู้จักแพร่หลายกันทั่วยุโรป และเอเชีย เชื่อกันว่าเป็นยันต์แก้กันอาถรรพณ์ สิ่งเลวร้าย ภูตผีปิศาจ สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาธรรมดา ตัวเลขที่มีปรากฏในยันต์นี้ ในทางพุทธศาสนา ได้รวบรวมพระเวทย์ พระมนต์ พระคัมภีร์ เทพยดาเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ มารวมอยู่ใน พระยันต์ เพื่อแสดงถึงสิ่งอันเป็นคุณค้ำจุน พระศาสนา เมื่อเราสามารถเรียนรู้ ปฏิบัติตามก็จะสามารถเข้าถึงพระพุทธศาสนา หากเราแค่รู้ แค่มองว่าเป็นแค่ยันต์ เป็นไสยศาสตร์ เป็นสิ่งทิ่ผิด เราก็จะไม่รู้ถึงรากเหง้าของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง พระยันต์นี้ใช้ลงผ้า หรือกระดาษ ปิดเสาเรือน หรือแขวน ๘ ทิศ ก็ได้ ป้องกันภัยอันตราย ภูติผีปิศาจ ใช้ได้สารพัดแล หากนำยันต์นี้ลงคู่กับจตุโร ก็จะได้เป็นยันต์ ตรีนิสิงเหใหญ่ พุทธคุณก็เอาของ ๒ พระยันต์นี้มารวมกัน
.

ยันต์บารมี ๓๐ ทัศ

“สุดยอดมหายันต์” อิทธิคุณวิเศษมากมายเหลือคณานับพุทธคุณดีรอบครอบจักวาล บารมีเต็มครบบริบูรณ์ พระเวทวิชาบารมี ๓๐ ทัศ หรือพระบารมี ๓๐ ทัศ เป็นพระบารมีที่พระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ ได้ทรงบำเพ็ญบารมีมาจนกระทั่งได้ ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะต้องประกอบไปด้วย ทานบารมี ๓ ขั้น ศีลบารมี ๓ ขั้น เนกขัมมะบารมี ๓ ขั้น ปัญญาบารมี ๓ ขั้น วิริยะบารมี ๓ ขั้น ขันติบารมี ๓ ขั้น สัจจะบารมี ๓ ขั้น อธิษฐานบารมี ๓ ขั้น เมตตาบารมี ๓ ขั้น และอุเบกขาบารมี ๓ ขั้น รวมกันเป็นบารมี ๓๐ ทัศ ประสิทธิ์พระคาถา ๔ วรรค คือ ๑.อิ ติ ปา ระ มิต ตา ตึง สา (คำบารมี ๓๐ ทัศ บาทแรก) ๒.อิ ติ สัพ พัญ ญู มา คะ ตา (คำบารมี ๓๐ ทัศ บาทที่ ๒) ๓.อิ ติ โพ ทิ มะ นุป ปัตโต (คาถาบารมี ๓๐ ทัศ บาทที่ ๓) ๔.อิ ติ ปิ โส จะ เต นะโม (คาถาบารมี ๓๐ ทัศ บาทที่ ๔)

ยันต์พระพุทธคุณถอยหลัง

ยันต์พุทธคุณก็คือ บทสวดสรรเสริญคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือบทอิติปิโสยันต์พุทธคุณถอยหลังเป็นกลวิธีแต่ครั้งโบราณให้สวดเพื่อกลับสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็จะดียิ่งขึ้น เกิดเป็นเสน่ห์ เมตตา แก้อาถรรพณ์ยันต์นี้ยังเป็น พื้นฐานของยันต์อีกหลาย ๆ แบบ ถือเป็นกลยันต์แต่โบราณที่มีอานุภาพมาก

ยันต์ไตรสรณะคมน์

ยันต์ผูกมาจากบท พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณังคัจฉามิ คือขอนอบน้อมเอาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ซึ่งพระไตรสรณคมน์ในทางไสยศาสตร์ถือว่าเป็น พระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพสูงสุด กันได้ทั้งผี กั้นได้ทั้งอันตรายที่จะเกิด ต่อตนเองและบุคคลรอบข้าง 

“พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ นี้แม้เทพ เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายยังต้องให้ความเคารพยำเกรง ไม่มีสิ่งใดที่ จะก้าวล้ำผู้ที่มีจิตมั่นคงในพระไตรสรณคมน์ได้” ไตรสรณะคมน์ถอยหลัง สามารถ บังคับ ยับยั้ง แก้ไข สิ่งชั่วร้าย สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ได้
.
.
.
.
.

อิสวาสุ

อิสวาสุ คือหัวใจพระรัตนตรัย
อิ มาจาก บทพระพุทธคุณ ๕๖ คือ อิติปิโส
สวา มาจาก บทพระธรรมคุณ ๓๘ คือ สวาขาโต
สุ มาจาก บทพระสังฆคุณ ๑๔ คือ สุปะฎิปัณโน
รวมกันคือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบองค์แห่งพระรัตนตรัย และรวมคุณแห่งเลข ก็จะได้ ๑๐๘
.
.
.

ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์

ยันต์จตุโร เป็นยันต์อักษรกล เลข 1 – 9 เป็นกลยันต์ ทุกแถว ทุกมุม จะรวมกันได้ 15 เป็นกลเลขมาแต่ครั้งโบราณ เป็นทั้งหลักกลทางโหราศาสตร์ในอดีตจนถึง สถาปัตยกรรมศาสตร์ในปัจจุบัน ในทางไสยศาสตร์ถือเป็นยันต์หนุนนำความเจริญ ลาภ ยศ สิ่งที่ดีงาม ให้บังเกิดขึ้น หากพระยันต์นี้สถิตอยู่ ณ.ทีใด สถานที่นั้นจะเจริญ ด้วยทรัพย์สิน เงินทองทั้งปวงจะงอกเงยเพิ่มพูน พระยันต์ที่นิยมลงเดี่ยวในการ ตั้งเสาเอก ไว้ที่หลุมศาล พระภูมิมาแต่ครั้งโบราณ เพราะเชื่อกันว่า จะทำให้บังเกิด ทรัพย์สิน เงินทอง ความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญรุ่งเรือง พระคำภีร์กล่าวว่า ให้ใช้คู่ กับตรีนิสิงเห และอริยสัจโสฬส จะลงในอาวุธ หอกดาบ ยามเข้ารบข้าศึก จะแคล้วคลาดทั้งปวง เขียนไว้ในสิ่งของ ขโมยจะลักมิได้เลย เขียนใส่แผ่นหิน ฝังรองไว้ ต้นไม้นั้นงอกงามแล ลงปิดประตูหน้าต่างกันโจร เขียนใส่ผ้าปักไว้ หลังคาเรือน ไฟมิไหม้เรือนแล

ยันต์อริยสัจจ์โสฬส

มีกล่าวไว้ว่า พระคาถานี้บรรจุอยู่ในพระมหาเจดีย์ ที่พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างเอาไว้ ภายหลังนักปราชญ์ท่านผู้รู้ทั้งหลายจึงผูกเป็นยันต์ อริยสัจจ์โสฬสมงคลขึ้นฯ พระยันต์นี้มีคุณาฤทธานุภาพมาก ป้องกันบำบัด ซึ่งอุปัทอันตรายทั้งปวง ก่อให้เกิดลาภ สรรพมงคล คุ้มครองป้องกันให้ได้ รับความสุขสวัสดี เป็นมหาวิเศษนักแล ทั้งคงกระพัน แลเป็นมหาเมตตา สง่าบารมี ทำให้เกิดโภคทรัพย์เงินทอง ตามแต่จะใช้เถิด ยันต์นี้ใช้ได้ทุกประการ เวลาหล่อ พระพุทธรูปสักการะบูชา ต้องลงพระยันต์นี้ใส่แผ่นทอง หลอมหล่อไปด้วย เพราะเป็นยอดมหายันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์นักแล
.
.
.
.
.

ยันต์ปิโย

ยันต์ปิโยฯ เป็นอักขระที่กล่าวถึง ความเป็นที่รักแก่เหล่าเทวดา มนุษย์ พรหม ยม ยักษ์ ครุฑ นาค ให้มีจิตยินดีในกันและกัน ให้มีความเคารพนบนอบต่อกันและกัน ความสุขก็จะบังเกิดขึ้น (ปิโยเทวะมนุสสานัง ปิโยพรหมานะมุตโม ปิโยนาคะสุปัณณานัง ปิยินทรียังนะมามิหัง ) เมื่อเราสวดมนต์บทนี้โดยระลึกถึง และปฏิบัติในสิ่งที่ดีงาม ให้ความรัก ความเคารพต่อตนเองและผู้อื่น ก็จะมีแต่ มิตรสหายอันเป็นที่รัก มีแต่สิ่งที่ดีงามเกิดขึ้น เราก็จะมีความสุข เป็นมหาเสน่ห์ ครอบจักรวาล เป็นที่รักของเทวดาทั้งหลาย เป็นที่รักของพรหมทั้งหลาย เป็นที่รัก ของมนุษย์ทั้งหลายและเป็นที่รักของนาคทั้งหลาย ครบทั้ง 3 โลก สวรรค์ มนุษย์และบาดาล มีอาณุภาพมากเป็นยันต์พุทธคุณชั้นสูง
อิ ติ ปิ

.
.

ยันต์ไม้เท้า

ยันต์นี้เดิมทีจะไว้ทำไม้เท้ากันภัยมาแต่โบราณ โดยใช้อานุภาพขององค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีอานุภาพมาก เพื่อมาปกป้องคุ้มครองภยันตรายทั้งหลาย ที่เกิดจาก สรรพสัตว์ที่มี เขี้ยว เล็บ งา ที่มีจิตวิปลาส ตลอดทั้งคนพาลใจบาป ให้ปราศนากาลไปไม่สามารถจะมาทำร้ายผู้ที่มีจิตศรัทธาและปฏิบัติดีในธรรม

หัวใจธาตุกรณีย์

ใช้หนุนธาตุทั้ง 4 โดยคาถา นะ มะ พะ ทะ หัวใจของธาตุทั้ง 4 ดังนี้

นะ คือ ธาตุน้ำ หรืออาโปธาตุ ใช้ในทาง เมตตา มหานิยม
มะ คือ ธาตุดิน หรือปถวีธาตุ ใช้ในทางขับไล่ภูตผีปีศาจ
พะ คือ ธาตุไฟ หรือเตโชธาตุ ใช้ในทางคงกระพันชาตรี 
ทะ คือ ธาตุลม หรือวาโยธาตุ ใช้ในทางกำบัง ล่องหน สะกดจังงัง 
ตามด้วย จะ ภะ กะ สะ ให้มีกำลังและมีอานุภาพมากยิ่งขึ้น
จะ ภะ กะ สะ ย่อมาจาก 
“จะ เช ทุชชะนัสสัคคัง” แปลว่า ให้พึงเว้นจากการคบคนชั่ว 
“ภะ เช สาธุสะมาคะตัง” แปลว่า ให้พึงคบหาสมาคมกับคนดี 
“กะ เร ปุญญะมะโหรัตตัง” แปลว่า ให้พึงทำแต่ความดีทั้งกลางวันและกลางคืน 
“สรนิจฺจมนิจฺจํ” แปลว่า ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ
เป็นพุทธคูณที่ครอบจักรวาล ครบทุกด้าน

ยันต์มงคลจักรวาลน้อย

ยันต์มงคลจักรวาลน้อยนี้เดิมทีเป็นบทสวดมนต์ ทำน้ำพระพุทธมนต์มาแต่โบราณ คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อ น้ำมนต์ 7 วัดซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจผิดอีก เมื่อดวงไม่ดีมีคนบอกให้ไปอาบน้ำมนต์ 7 วัด ก็เที่ยวไปอาบน้ำมนต์ตามวัดต่าง ๆ ถึง 7 วัด นั้นไม่ใช่ ที่ถูกต้องนั้นต้องไปอาบน้ำมนต์ มงคลจักรวาลน้อย เพื่อเป็นการล้างทุกข์ โศก โรคภัย ต่างๆ และเสริมความเป็นสิริมงคล ด้วยอำนาจแห่งการเลื่อมใสในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย

ยันต์ศาสตราโสฬส

ยันต์อาวุธ 4 ประการในตำนานพุทธ พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า มีอานุภาพอาวุธประเสริฐที่ร้ายแรงทรงอานุภาพมากที่สุดในโลกมี 4 ประการคือ

  1. วชิราวุธของพระอินทราธิราช ถ้าท้าวสักกะทรงพิโรธ แล้วประหารโดยวชิราวุธ วชิราวุธนั้นก็จะชำระภูเขาสิเนรุซึ่งสูงถึงหนึ่งหมื่นแปดพันโยชน์ลงไปถึงข้างล่างได้
  2. คฑาวุธของท้าวเวสสุวรรณ สามารถทำลายศีรษะของพวกยักษ์หลายพันได้ในคราวเดียว และกลับมาสู่กำมือตั้งอยู่อีกได้ พญายักษ์ทั้งหลายจึงกลัว ผีทั้งหลายจึงกลัวท้าวเวสสุวรรณ ผู้เป็นหัวหน้ายักษ์และบรรดาภูตผีปีศาจทั้งหลายที่ไม่อ่านต่อกรได้
  3. นัยนาของพญายม ถ้าพญายมพิโรธแล้วสักว่ามองดูด้วยนัยย์ตาของท้าวพญายม พวกกุมภัณฑ์หลายพันก็จะลุกเป็นไฟพินาศสิ้น

ทุสสาวุธวุธของอาฬวกยักษ์ (ผ้าโพกหัว) ถ้าปล่อยทุสสาวุธวุธในอากาศแล้ว ฝนก็ไม่ตกตลอด 12 ปี ถ้าปล่อยในแผ่นดิน หญ้าต้นไม้ทั้งปวงจะเหี่ยวแห้งไม่งอกอีกภายใน 12 ปี ถ้าปล่อยในสมุทร น้ำทั้งหมดก็เหือดแห้ง ถ้าปล่อยในภูเขาก็จะกระจัดกระจายเป็นท่อนไม้น้อยใหญ่ไปอาวุธทั้งสี่นี้ถือเป็นที่สุดของอนุภาคทำลาย ใช้ขับไล่อวมงคลต่างๆ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *